คอลัมน์หมายเลข 7 : ที่มาและวิธีตามหาเงินครู 2,100 ล้านบาท

คอลัมน์หมายเลข 7 ต้านทุจริตตามติดกลโกง วันนี้มีความคืบหน้าการติดตามเงินจากกองทุนเงินครู จำนวน 2,100 ล้านบาท ที่ผู้บริหาร สกสค. นำไปลงทุนกับเอกชนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตามจากคุณสมโภชน์ โตรักษา

จากจุดเรี่มต้นที่คุณครู ร้องเรียนคอลัมน์หมายเลข 7 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้ช่วยตรวจสอบความโปร่งใส กรณีคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. นำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ปี 2556-500 ล้านบาทและปี 2557-2,100 ล้านบาท ร่วมลงทุนโครงการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 90 เมกกะวัตต์ที่จังหวัดเพชรบุรี โดยทำสัญญากับบริษัทบิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด ซึ่งพึ่งจดทะเบียนตั้งบริษัท ได้ผลตอบแทนดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี โดยที่เอกชนรายนี้ไม่นำตั๋วสัญญาใช้เงินจากธนาคาร มูลค่า 2,100 ล้านบาท หรืออาวัล มาวางค้ำประกันตามสัญญา ผ่านมาหลายเดือนจึงนำหลักทรัพย์ที่อ้างว่ามีมูลค่า 5 พันล้านบาท วางค้ำประกันแทน

การขยายผลตรวจสอบเรื่องนี้ทำให้ทราบว่า พื้นที่ก่อสร้างโครงการนี้ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ และครบกำหนด 1 ปีตามสัญญาร่วมลงทุนตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว แต่เอกชนรายนี้ขอขยายเวลาส่งคืนเงินต้น โดยยอมเสียค่าปรับและดอกเบี้ย

สำหรับเงินกองทุนที่ผู้บริหาร สกสค.ชุดที่แล้ว นำไปลงทุนกับบริษัทบิลเลี่ยน ได้มาจากการสนับสนุนของธนาคารออมสินตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันในปี 2546

ขณะที่ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินอธิบายวิธีติดตามเงิน 2,100 ล้านบาท เพื่อนำส่งคืนให้กับกองทุนของคุณครู

ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ สกสค.ยุติการทำธุรกรรมทุกประเภทกับบริษัทบิลเลี่ยน และให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. เข้าไปควบคุมจัดการกองทุนทุกประเภทของ สกสค. พร้อมแก้ไขปัญหาและตรวจสอบว่าใครบ้างที่มีส่วนทุจริต และให้เก็บหลักทรัพย์ของบริษัทบิลเลี่ยนที่ใช้ค้ำประกันกับ สกสค. เพื่อเป็นหลักฐานขยาบผลตรวจสอบต่อไป

ก่อนหน้านั้น พลเอกประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 สั่งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมสั่งปรับโครงสร้างการบริหารงาน เช่น ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการคุรุสภา และประธานกรรมการ สกสค. และให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมาของหน่วยงานดังกล่าว

การขยายผลตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังของช่อง 7 สี โดยคอลัมน์หมายเลข 7 เพื่อมุ่งหวังให้การใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ เกิดดอกผลนำไปเป็นสวัสดิการให้คุณครูและบุคลากรทางการศึกษา

ที่มา คอลัมน์หมายเลข 7 : ที่มาและวิธีตามหาเงินครู 2,100 ล้านบาท