วิจัยปัญหา นร.อาชีวะลดลงค่านิยมปริญญาตรีขยายวง           รศ.ดร.จอมพงค์ มงคลวนิช นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช) ทำวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพและภาพลักษณ์การศึกษาประเภทอาชีวศึกษา ซึ่งพบว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกประสบปัญหาจำนวนผู้เรียนอาชีวศึกษา ลดลง เนื่องจากค่านิยมในเรื่องปริญญาและโอกาสเข้าถึงอุดมศึกษาขยายวงกว้าง ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการกำลังคนของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ ซึ่งต้องการกำลังคนที่จบอาชีวศึกษาจำนวนมาก ประเทศต่างๆ จึงมีนโยบายปรับภาพลักษณ์ตลอดจนวิธีการเรียนการสอนและยกระดับอาชีวศึกษาเพื่อเป็นแรงจูงใจ           ในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ก็ประสบปัญหาเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลออก คุณวุฒิใหม่เพื่อปรับภาพลักษณ์และเป็นแรงจูงใจ คือ Tech Bacc (Technical Baccalaureate) หรือ ปริญญาเทคนิควิศวกรรม โดยเทียบเท่า A Level (ต่ำกว่าปริญญาตรี) ซึ่งสถานศึกษาที่ร่วมโครงการจะต้องมีความร่วมมือและได้รับการรับรองจาก 5 ประกอบการชั้นนำและ 2 มหาวิทยาลัยในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นการฝึกประสบการณ์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ในขณะที่ ประเทศเกาหลี พัฒนากลุ่มวิทยาลัยอาชีวศึกษาระดับ Premium โดยร่วมมือกับประเทศเยอรมณี และสหรัฐอเมริกาในหลายมลรัฐ อนุญาตให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาและวิทยาลัยชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินการสอนปริญญาตรีสายวิชาชีพหรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Bachalor of Applied Science) พร้อมให้ทุนสนับสนุนเป็นแรงจูงใจ ในประเทศสิงคโปร์ และอีกหลายประเทศ จำกัด จำนวนมหาวิทยาลัยและจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเพื่อให้นักเรียนส่วนใหญ่เข้าสู่วิทยาลัยอาชีวศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมตลอดจนยุทธศาสตร์ประเทศ และลดปัญหาการว่างงานของเยาวชนด้วย           รศ.ดร.จอมพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่างานวิจัยดังกล่าวเป็นข้อเสนอในการยกระดับอาชีวศึกษา ตนจะเร่งสรุปและมอบให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาต่อไป หากความนิยมของการเรียนอาชีวศึกษามีข้อจำกัดอย่างปัจจุบัน ประเทศไทยคงจะลำบากในแง่ศักยภาพเชิงการแข่งขันในเวทีโลก           รศ.ดร.จอมพงศ์ กล่าวปิดท้ายว่า ค่าตอบแทนก็เป็นแรงจูงใจสำคัญเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนโยบายรัฐบาลให้ผู้ปริญญาตรีได้รับ 15,000 บาท/เดือน รัฐบาลควรเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้จบอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นและเร่งประชาสัมพันธ์ด้วย            ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

โพสเมื่อ : 20 พ.ค. 57   อ่าน 1498 ครั้ง      คำค้นหา :