"นิวัต" แนะดูภาระงานก่อนแยก สกอ.

ประธาน ทปอ.มรภ. ชี้ก่อนปรับโครงสร้างควรกำหนดทิศทางพัฒนาอุดมฯ ให้ชัด ย้ำต้องปรับเพื่อความคล่องตัว ไม่ใช่ขยายตำแหน่ง ด้าน “พรชัย” หนุนแยก สกอ. เชื่อมีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่กับ ศธ.

วันนี้ (14 ต.ค.) ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) เพชรบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ (ทปอ.มรภ.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปวิเคราะห์ข้อดี และข้อเสียของการแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานไม่รวมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ส่วนตัวมองว่าก่อนจะแยกหรือไม่แยก สกอ. ออกจาก ศธ. นั้น ควรต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการแยกให้ชัดเจน และกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของประเทศให้ชัดเจนก่อน จากนั้นจึงพิจารณาที่โครงสร้างในปัจจุบันว่ามีความสอดคล้อง หรือมีปัญหาหรือไม่ แล้วค่อยปรับปรุงโครงสร้างองค์กร

“ผมอยากให้นำเรื่องภาระงานที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาโครงสร้างองค์กรมาเป็นตัวตั้ง และในการปรับโครงสร้างไม่ควรปรับเพื่อขยายตำแหน่ง แต่ควรปรับเพื่อความคล่องตัว และกระจายอำนาจบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล รวมถึงความรับผิดชอบ ส่วนการจะแยก สกอ.ออกมาจาก ศธ.นั้น ผมไม่แน่ใจว่าเนื้องาน และหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สกอ. จะเพียงพอต่อการตั้งเป็นกระทรวงหรือไม่ และหากต้องไปรวมกับงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น งานวิจัย หรืองานการจัดการศึกษาหลังระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของหน่วยงานอื่นๆ จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ จึงอยากให้มองภาพองค์รวมก่อนจะตัดสินใจแยก สกอ. ออกจาก ศธ.” ผศ.ดร.นิวัต กล่าว

ด้าน ดร.พรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม ในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวอุดมศึกษามีประสบการณ์มาแล้วทั้งการอยู่แบบรวม และอยู่แบบแยกกับ ศธ. จึงเห็นว่าการแยกออกจาก ศธ. จะทำให้การทำงานมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้รัฐมนตรีที่จะมากำกับดูแลจะได้เน้นเรื่องอุดมศึกษาเป็นหลัก เพราะการจัดการศึกษาระดับนี้ไม่ใช่แค่จัดการเรียนการสอนเท่านั้น แต่ต้องมีงานวิจัยควบคู่ไปด้วย ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงต้องมีอิสระพอสมควร จึงจะสามารถสร้างความเป็นเลิศในแต่ละด้านได้.

ที่มา เดลินิวส์ วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 14:10 น.