ครบเครื่อง เรื่องการเรือน มสด.โชว์ฝีมือของนักศึกษา




      

ครบเครื่อง เรื่องการเรือน มสด.โชว์ฝีมือของนักศึกษา

          โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต (มสด.) จัดงานครบเครื่อง เรื่องการเรือน ครั้งที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวความคิด เชฟการเรือนสวนดุสิตเลื่องลื่อไกล เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรม นวัตกรรมด้านอาหารและคหกรรมศาสตร์ของนักศึกษาและอาจารย์ ทั้งนี้ยังเป็นการแนะนำหน่วยงาน หลักสูตร ที่เปิดสอนของโรงเรียนการเรือนให้นักเรียนมัธยมและบุคคลทั่วไปให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น จุดเด่น ของงาน เน้นให้ความสำคัญกับนักศึกษา ได้แสดงความสามารถในทุกด้าน โดยเฉพาะการแข่งขันการประกวดอาหารในหัวข้อ อาหารเล่าเรื่อง พร้อมเชิญเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมตัดสิน
          นายสุทธิ์ธิป จันตา (เบนซ์) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ โรงเรียนการเรือนกล่าวว่า ตนมีโอกาสได้ร่วมชมกิจกรรมดังกล่าวทุกปี ซึ่งภาพรวม ในปีนี้ในสายตาตน จัดงานออกมาได้เป็นอย่างดี มีความน่าสนใจ ซึ่งตนชื่นชอบ ซุ้มของศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ลำปาง เพราะนำเสนอวัฒนธรรมล้านนาสมบูรณ์แบบ เสมือนเราได้ไปเที่ยวภาคเหนือด้วยตนเอง อาทิ การจำหน่ายขนมจีนน้ำเงี้ยว, ไส้อั่ว, แคปหมู ประทับตกแต่งด้วยผ้าพื้นเมืองของชาวเหนืออย่างวิจิตร งดงาม ซึ่งทำให้ตนและเพื่อนร่วมงานได้รับประโยชน์เป็น อย่างมาก เรียนรู้วัฒนธรรมล้านนาผ่านองค์ความรู้เชิงประจักษ์ จึงอยากให้ มหาวิทยาลัย จัดงานดีๆ อย่างนี้ต่อเนื่อง ทุกปีครับ
          นายสุวิช ชัยมงคล (เอ็ม) นักศึกษา ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ โรงเรียนการเรือนกล่าว ในฐานะตัวแทนศูนย์ลำปางว่า เราได้เตรียมความพร้อมในการจัดงานเป็น อย่างดี เน้นการนำเสนอรูปแบบการจัดงาน ด้วยไม้ลายฉลุซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา โดยนำวัสดุอุปกรณ์มาจากลำปาง โดยตรง ที่สำคัญอาหารประจำภาคเหนืออย่างไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม และแคบหมู ก็นำ มาจัดจำหน่าย มีคุณภาพอย่างแน่นอน
          นางสาวพรชนก บางขุนทด (ป๊อป) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารหัวหน้าทีม 5 สหายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชนะเลิศการประกวดแข่งขันทำอาหาร กล่าวว่า ทีมตนมีสมาชิกภายในกลุ่มทั้งหมด 4 คน ซึ่งการลงแข่งครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะชนะ เพียงแค่อยากหาประสบการณ์ให้กับ ตัวเอง ฝึกปฏิบัติจริงในสิ่งที่เรียนมา และทดสอบความสามารถของตัวเราเองว่าพร้อมเข้าสู่สายอาชีพหรือไม่ แต่พอใจกับรางวัลชนะเลิศมาก เพราะทีมเราทำอาหารออกมาจากหัวใจ ใส่ความรักลงในเมนู โดยดัดแปลงรสชาติของอาหารให้มีความแปลกใหม่ เลยถูกปากผู้ชิมมากกว่าที่เดิม จึงเป็นเหตุให้คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมใบเกียรติบัตรจาก เชฟเสาวกิจ ปรีเปรม สมาคมเชฟแห่งประเทศไทยอีกด้วย
          ในการแข่งขันในวันนั้น ผลแพ้ หรือชนะไม่สำคัญ แต่สำคัญคือ นักศึกษาทุกคนได้แสดงศักยภาพอย่าง เต็มที่ และสามารถนำประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมสืบไป
          แนวทางแบบนี้ สำนักงานอาชีวศึกษา น่าเก็บไปคิดเป็นการบ้าน บ้างนะ

        

 

  ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


โพสเมื่อ : 21 ก.พ. 57   อ่าน 1893 ครั้ง      คำค้นหา :