นักวิชาการหนุนเรียนรู้ภาษาอาเซียน
นักวิชาการย้ำภาษาอาเซียนมีความสำคัญในกลุ่ม
ประชาคม
แต่ต้องไม่ทิ้งภาษาอังกฤษเพราะเป็นภาษากลางที่ใช้สื่อสารได้กว้างขวางกว่า
แนะซื้อตำราภาษาอาเซียนควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้เขียนกันหน้าแตกเวลา
นำไปใช้จริง
วันนี้(7 พ.ย.) ในการเสวนาเรื่อง” วิถีแห่งประชาคมอาเซียน“
งานเสวนาทางวิชาการภาษาและวัฒนธรรมอาเซียน ที่โรงแรมเดอะสุโกศล
กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดโดย ราชบัณฑิตยสถาน ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน กล่าวว่า ประชาคมอาเซียน เกิดมานานแล้ว
และได้ร่วมทำความตกลงร่วมกันว่าจะสร้างแผนหรือวางพิมพ์เขียวการพัฒนาประชาคม
ให้เสร็จสิ้นในปลาย ปี 2558 เพราะฉะนั้น ปี 2558
จึงไม่ต้องรอเปิดหรือตั้งรับ หรือ เตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว
เราต้องปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
เพราะตอนนี้ต้องถือว่าเราอยู่ในแผนพัฒนาประชาคมเฟสแรกแล้ว และเมื่อสิ้นปี
2558
ก็ต้องถือว่าเป็นการเข้าเฟสสองที่จะมีเป้าหมายของการพัฒนาที่ชัดเจนมากขึ้น
ดังนั้นไม่ต้องตื่นตระหนกกันเพราะเราได้อยู่ในความเป็นประชาคมอาเซียนมานาน
แล้ว แต่ขอย้ำว่าภาษาอังกฤษคือภาษาที่สำคัญในการสื่อสารของกลุ่มอาเซียน
นางตูซาร์ นวย กรรมการวิชาการราชบัณฑิตยสถาน ผู้เชี่ยวชาญภาษาพม่า กล่าวว่า
ตนอาศัยอยู่ประเทศไทยมานาน ภาษาพม่า มีรากมาจากภาษาบาลีสันสฤต
อยู่ในตระกูลเดียวกับจีน ทิเบต ปัจจุบันมีภาษาที่ใช้ในประเทศ 110 ภาษา
หลายตระกูลภาษา สำหรับการเรียนภาษาเพื่อนบ้านที่ผ่านมามีนักเรียนพม่า
สนใจเรียนไทยศึกษาและลงเรียนภาษาไทย ประมาณ 10 คน
แต่ปัจจุบันมีมากขึ้นลงเรียนถึง 200 คน
โดยมีเป้าหมายเพื่อรับนักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในพม่า และแนวชายแดน
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ถ้าเด็กไทยไม่เปลี่ยนมุมมองยังมองภาษาพม่าเป็นภาษาของ
คนงานจึงไม่อยากเรียน ก็เตรียมตัวตกงานได้
เพราะเด็กพม่ารู้ภาษาพม่าและอังกฤษอยู่ในตัวอยู่แล้ว
และยังเรียนภาษาไทยเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในมุมของนักลงทุนเขาจ้างงาน 1 คน
แต่จะประหยัดคนทำงาน 3 คน ไม่ต้องมีผู้ประสานงาน
“อย่างไรก็ตามในการเรียนภาษาพม่าซึ่งจะต้องใช้สื่อ ต้องมีหนังสือ
อยากให้เลือกซื้อหนังสือที่มีชื่อผู้เขียน
และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้เรียนด้วย
เพราะหากนำไปใช้สื่อสารแล้วผิดความหมายอาจะทำให้หน้าแตก
หรือเกิดความเข้าใจผิดกันได้”นางตูซาร์ นวย กล่าว
ด้าน น.ส.ส่าหรี สุฮาร์โย กรรมการวิชาการราชบัณฑิตยสถาน
ผู้เชี่ยวชาญภาษาอินโดนีเซีย กล่าวว่า ตนเกิดในประเทศไทย
มีพ่อแม่เป็นอินโดนีเซีย พูดได้ทั้งภาษาไทยและอินโดนีเซีย แต่ 2
ปีที่ผ่านมากระแสอาเซียน ภาษาอาเซียนทำให้ชีวิตตนเปลี่ยนไป
เพราะคนไทยสนใจเรียนภาษาอาเซียนมากขึ้นและสนใจเรียนภาษาอินโดนีเซียมากจนน่า
ตกใจ
ซึ่งที่ผ่านมาตนจะสอนภาษาอินโดนีเซียโดยต้องจัดเตรียมข้อมูลเองเพราะหนังสือ
ยังมีไม่มาก แต่ปัจจุบันมีตำราออกมาเป็นจำนวนมาก
หากต้องการหาตำราก็ขอให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคนเขียนด้วย
อย่างไรก็ตามภาษาอาเซียนเป็นภาษาที่น่าสนใจ เรียนรู้และน่าส่งเสริม
แต่ก็อย่าทิ้งภาษาอังกฤษ เพราะเป็นการสื่อสารในวงกว้างได้มากกว่า
ที่มา เดลินิวส์ วันศุกร์ 7 พฤศจิกายน 2557 |
โพสเมื่อ :
10 พ.ย. 57
อ่าน 1433 ครั้ง คำค้นหา :
|
|