![]() |
ให้ออกราชการ 19 ราย ยันผิดจริงไม่ได้กลั่นแกล้งใครดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าเรื่องการดำเนินการตามมาตรการป้องกัน และปราบทุจริตในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีผู้เกี่ยวข้องที่ต้องถูกดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวทั้งสิ้น 31 ราย แบ่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) 5 ราย โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน 1 ราย ให้ออกจากพื้นที่ 3 ราย ให้มาประจำส่วนราชการ 1 ราย รอง ผอ.สพท. 5 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 2 ราย และให้ออกจากพื้นที่ 3 ราย ผอ.สถานศึกษา 14 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้งหมด ครู 1 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และบุคลากรทางการศึกษา 5 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 1 รายและให้ออกจากพื้นที่ 4 ราย ทั้งนี้ในส่วนที่เป็นอำนาจของเลขาธิการ กพฐ.ในการลงนามในคำสั่ง คือ ตำแหน่ง ผอ.สพท. รอง ผอ.สพท. ตนได้ลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือจะส่งให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการลงนามต่อไป “การใช้มาตรการของ คสช.ครั้งนี้ถือเป็นการล้างท่อ กรณีให้ออกจากราชการไว้ก่อน คือ มีคำสั่งศาลว่ากระทำความผิดจริง หรือคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง สรุปโทษเพื่อเสนอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นชอบให้ลงโทษแล้ว ส่วนที่ให้ย้ายออกจากพื้นที่ คือ ผ่านการสืบสวนแล้วมีข้อมูลชัดเจนว่ามีแนวโน้มที่จะกระทำผิดจริง จึงให้ย้ายออกจากพื้นที่ไว้ก่อนและอยู่ระหว่างสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแต่ยังไม่สรุปผล” เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เพราะมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการตามมาตรการ ของ คสช. โดยมีตนเป็นประธานพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการถูกฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ผู้ที่ถูกใช้คำสั่งตามมาตรการ คสช.ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทุจริตประพฤติมิชอบ กับทำผิดระเบียบพัสดุและระเบียบการเงินการคลัง จนทำให้ราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่วนการดำเนินการในพื้นที่ต้องรอข้อมูลจาก สพท. และเตรียมนัดประชุมกับ ศธจ. เพื่อดำเนินการตามมาตรการต่อไป. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 19 เม.ย. 61 อ่าน 2117 ครั้ง คำค้นหา : |