เสียงสะท้อนถึงคนไทย



เสียงสะท้อนถึงคนไทย

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]


มีเสียงสะท้อนถึงจุดอ่อนของคนไทย จาก ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศแห่งหนึ่ง ที่ประจำอยู่ในกรุงเทพ มหานคร ได้แสดงทรรศนะไว้หลายประการ ซึ่งหลายคนอาจจะได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าอีกมิใช่น้อยอาจยังไม่เคยได้ยิน ที่ว่า ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนอีกต่อไป เนื่องจากคนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ส่วนใหญ่เป็นประเภท มือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็นธุรกิจการเมืองธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติ ล้าหลังไปเรื่อยๆ

 

มากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ เรียกว่ามองอนาคตไม่เป็น ไม่จริงจังทำแบบผักชีโรยหน้า น้อยคนทำงานเป็นระบบ มีขั้นตอน มีเป้าหมายอนาคตชัดเจน

 

ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับ สัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึง ความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อยๆ และประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน

 

การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การปฏิบัติตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวาร จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อนแบบไร้มาตรฐาน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจเพื่อเอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด ทำให้คนดีไม่กล้าอาสา

 

เอ็นจีโอค้านลูกเดียว บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์ บ่อยครั้งที่ประชาชนและประเทศต้องเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา ไม่ได้พูดถึงเหตุผลกันจริงๆ โดยเฉพาะไทยยังไม่พร้อมในการสร้างความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก เพราะขาดทักษะและทีมเวิร์กที่ดี เลี้ยงลูกไม่เป็น ไม่สอนให้สำนึกผิดชอบต่อสังคม ให้ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง ทำให้ไม่เข้มแข็ง ไม่กระตือรือร้น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน ขี้โรคและจิตใจอ่อนแอ

 

การศึกษายังไม่ทันสมัย เก่งแต่ภาษาตัวเอง ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจตัวเอง คนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันในเวทีนานาชาติ จริงหรือไม่ ไปทบทวนดู

 

 

ขอบคุณที่มาจากข่าวสดออนไลน์ วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559


โพสเมื่อ : 12 ก.ย. 59   อ่าน 1563 ครั้ง      คำค้นหา :