เปิดเทอมแรก 58 ป.1 "อ่าน-เขียนไม่ได้" 11% ห่วง ร.ร.ประถมเรียนช้าเพิ่มขึ้น
สพฐ. สำรวจช่วงเปิดเทอมแรกปี 2558 พบ ป.1
อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ 11% ป.2 พบ 8% และ ป.3 พบ 5% ขณะที่ผลสุ่มตัวอย่าง
ร.ร.ประถมพบเรียนช้าเพิ่มมากขึ้น เร่งแก้ปัญหาหลายแนวทาง เชื่อสัดส่วนลดลง
วันนี้ (20 ก.ค.) นางศกุนตลา สุขสมัย รอง
ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(สพฐ.) กล่าวถึงปัญหากรณีเด็กประถมศึกษาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ว่า
จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดเมื่อตอนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 พบว่า
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยังคงมีปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ 11%
ขณะที่เด็ก ป.2 ปัญหาลดลงเหลือประมาณ 8% และเด็ก ป.3 มีอยู่ประมาณ 5%
ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักพบในโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลมากกว่าโรงเรียน
ขนาดใหญ่ในตัวเมือง ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายตัวปัจจัย ทั้งตัวเด็กนักเรียนเอง
เช่น ชาวเขาที่เด็กไม่ได้พูดภาษาไทยเมื่ออยู่บ้าน
หรือการย้ายถิ่นฐานตามพ่อแม่ ทำให้ต้องหยุดเรียนกลางคัน
หรือเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าจากพ่อแม่วัยรุ่น
ปัญหาจากครูที่มีจำนวนน้อย เพราะไม่ค่อยมีใครอยากมาบรรจุในพื้นที่ห่างไกล
ทำให้ต้องสอนควบ และไม่ได้มีครูสอนภาษาไทยโดยเฉพาะ
สำหรับเด็กในเมืองก็พบว่าที่ผ่านมามีบางโรงเรียนที่สอนเรื่องการอ่านการ
เขียนที่ไม่เหมือนกัน เช่น การสอนอ่านเขียนแบบเป็นคำ ๆ
ไม่ได้สอนอ่านเขียนแบบแจกลูกสะกดคำ
ซึ่งทำให้เมื่อเจอบางคำที่รูปแบบเปลี่ยนไปก็ไม่สามารถอ่านหรือสะกดออกมาได้
อย่างถูกต้อง
นางศกุนตลา กล่าวว่า การแก้ปัญหาในพื้นที่ห่างไกลก็พยายามให้มีการบรรจุครู
ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีตำแหน่งอยู่ รวมไปถึงการสอนผ่านทางไกล
สำหรับรูปแบบการสอนภาษาไทยที่ต่างกันนั้น สพฐ.
ได้ทำแบบเรียนเร็วใหม่สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 - 3
ซึ่งจะสอนภาษาไทยในรูปแบบการแจกลูกสะกดคำให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ
ใช้เป็นแนวทางในการสอนขั้นพื้นฐาน
เพราะเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้เด็กสะกดคำได้
แต่การเรียนการสอนไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุด
ขึ้นอยู่กับครูเป็นผู้ประเมินวิเคราะห์ด้วยว่า
การเรียนการสอนแบบใดที่เหมาะสมกับเด็ก
ก็อาจเลือกวิธีการสอนที่แตกต่างกันออกไปสำหรับเด็กได้ ซึ่ง สพฐ.
ก็ได้ให้ศึกษานิเทศก์ในแต่ละเขตพื้นที่ลงไปตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ว่า
โรงเรียนแต่ละแห่งมีการสอนภาษาไทยเป็นอย่างไรบ้าง
“จากการสุ่มตัวอย่างโรงเรียนประถมศึกษา พบว่า เด็กเรียนช้าเพิ่มมากขึ้น
อย่างที่บอกว่าเกิดจากการย้ายที่เรียน รวมไปถึงพัฒนาการล่าช้าของเด็กด้วย
ทำให้การเรียนการสอนในห้องถูกฉุดรั้งไปด้วย
เพราะครูไม่สามารถสอนกลุ่มหนึ่งที่รู้เรื่องแล้วปล่อยอีกกลุ่มหนึ่งไปได้
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการแก้ปัญหาของ สพฐ. รวมไปถึงความร่วมมือกับ สกอ.
และ สสส. ในโครงการ Gen A พลังอ่านเปลี่ยนเมือง
โดยให้นักศึกษาเข้ามาทำจิตอาสาในรูปแบบพี่สอนน้องอ่านเขียนหนังสือ
ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของเด็กดีขึ้น
ซึ่งจะมีการประเมินการอ่านออกเขียนไม่ได้ของเด็กอีกครั้งเมื่อสิ้นปีการ
ศึกษาคือ มี.ค. 2559 ตามนโยบายนายกฯ
ที่จะทำให้ประเทศไทยปลอดการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” นางศกุนตลา กล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 20 ก.ค.2558 |
โพสเมื่อ :
21 ก.ค. 58
อ่าน 1982 ครั้ง คำค้นหา :
|
|