จุฬาฯ ร่วมงานดิจิทัลไทยแลนด์ ชูสตาร์ทอัพ-นวัตกรรมเพื่อสังคม



"จุฬาฯ" ร่วมออกบูธงานดิจิทัล ไทยแลนด์ โดยชูดิจิทัล สตาร์ทอัพและนวัตกรรมเพื่อสังคมหวังตอบสนองทั้งเมืองและชนบท

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ศ.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวภายในงานดิจิทัล ไทยแลนด์ จัดโดยกระทรวงไอซีที ระหว่างวันที่ 26 – พ.ค. 2559  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า จุฬาฯ ร่วมออกบูธนำเสนอการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อผลักดันสังคมไทยไปสู่เศรษฐกิจที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดสร้างสรรค์ที่จะฉุดประเทศออกจากกับดักรายได้ปานกลาง และมีผลงานตอบสนองคนในสังคม รวมถึงทิศทางใหม่พัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านนวัตกรรม และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่จะเชื่อมโยงองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมของอาจารย์และนิสิตเข้ากับทักษะทางธุรกิจและการลงทุนของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมในรูปแบบของสตาร์ทอัพ ทั้งนี้ จะอาศัยการเปิดพื้นที่ของจุฬาฯ ทั้งใจกลางกรุงเทพฯ และที่ศูนย์การเรียนรู้ในต่างจังหวัดเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

"ด้วยต้นทุนของคน องค์ความรู้ครบทุกศาสตร์ และพื้นที่ ที่เรามี จุฬาฯ จึงอยู่ในโพซิชั่น ที่สามารถจะสร้างสิ่งแวดล้อมอันเอื้ออำนวยต่อการสร้างนวัตกรรม และส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เกิดขึ้นได้จริงเพื่อก่อให้เกิดโปรดักส์และผู้ประกอบการรายใหม่ รายได้และการจ้างงาน พร้อมๆ ไปกับส่งเสริมและสนับสนุนคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสแสดงความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่รากฐานของการก่อเกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน ซึ่งทางมหาลัยฯ ได้มีการสร้างศูนย์อินโนเวชั่นฮับ ที่ส่งเสริมสู่สตาร์ทอัพ ที่สยามสแควร์ จามจุรีสแควร์ และที่ศูนย์การเรียนรู้ของจุฬาฯ ที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นการร่วมกันระดมทุนระหว่างมหา'ลัย กับทางศิษย์เก่าและชมรมไอโอไอซี (Intania Open Innovation Club) ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตรงนี้จุฬาฯ ดำเนินการจริง ไม่ได้เกาะกระแสสตาร์ทอัพแต่อย่างใด และมุ่งทำให้เกิดผลจริง เนื่องจากเห็นว่า การพัฒนาในรูปแบบดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศโดยภาพรวม ซึ่งในส่วนของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นแกนหลักสำหรับการขับเคลื่อนครั้งนี้" ศ.บัณฑิต กล่าว

อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของอินโนเวชั่นฮับที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีอยู่หลายจุดด้วยกันคือ สยามสแควร์ เชื่อมต่อ BTS จามจุรีสแควร์ เชื่อมต่อ MRT และในอีก 3 ปีข้างหน้า มีการวางแผนที่จะเปิดเมืองนวัตกรรมแห่งจุฬาฯ (CU Innovation District) ณ พื้นที่เขตสวนหลวงใกล้กับอุทยานจามจุรี ซึ่งเป็นพื้นที่กว่า 30 ไร่ ที่ทางจุฬาฯ มอบให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมือง ขณะเดียวกัน ก็จะมีการสร้างศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมในพื้นที่ชนบทในลักษณะที่จะบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจฐานรากเดิมที่เป็นเกษตรกรรม แต่หาทางดัดแปลงและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตและกระบวนการด้วยวิธีการทางนวัตกรรม ซึ่งส่วนนี้ จะไปทำที่ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้ของจุฬาฯ ที่ จ.น่าน 

สำหรับผลงานนวัตกรรมทางดิจิทัลของจุฬาฯ ที่นำเสนอที่งานดิจิทัล ไทยแลนด์ ได้นำเสนอระบบนิเวศนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula Innovation Ecosystem) ที่สร้างสตาร์ทอัพก้าวขึ้นถึงระดับ Series A เช่น แอพพลิเคชั่นด้านประกันภัย Claim di เมื่อเกิดรถชน ไม่ต้องเสียเวลารอ ได้รับทุน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (71.6 ล้านบาท) และได้คัดเลือกนวัตกรรมที่ตอบสนองคนในสังคมตลอดช่วงอายุขัย และในทุกพื้นที่ของสังคม.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 27 พ.ค. 59   อ่าน 1246 ครั้ง      คำค้นหา :