![]() |
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มอบนโยบายแก่ผู้บริหาร สกอ. โดยมี รศ.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และผู้บริหาร สกอ.ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งหลังรับฟังการชี้แจงแผนและโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนอุดมศึกษาไทยว่า แผนและทิศทางการทำงานของ สกอ.ต้องสอดรับกับนโยบายการศึกษาของรัฐบาล โดยเฉพาะการผลิตกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยากให้เห็นภาพว่าปี 2559 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นต้องกำหนดแผนที่ชัดเจนและตอบโจทย์ หากมีเรื่องใดเสนอ ครม.ก็ต้องชี้ให้เห็นว่าหากไม่ได้รับการสนับสนุนก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับอุดมศึกษาไทย รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ส่วนที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยเลิกเรียนวิชาการเวลา 14.00 น. ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าลดเนื้อหาวิชาการลง แต่มหาวิทยาลัยยังคงสอบเข้าแบบเดิม เด็กก็ต้องเร่งกวดวิชาตั้งแต่ประถมนั้น ตนได้หารือกับ สพฐ.แล้วจากงานวิจัยพบว่าเนื้อหาสาระตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ นักเรียนควรใช้เวลาเรียนอยู่ที่ 840 ชั่วโมงต่อปี หรือ 200 วัน คิดเป็นวันละ 5 คาบ แต่ขณะนี้โรงเรียนทุกแห่งเรียน 7 คาบต่อวันหรือคิดเป็น 1,400 ชั่วโมงต่อปีซึ่งมากเกินไป ดังนั้นการเลิกเรียนเวลา 14.00 น.ก็คงไม่กระทบหากข้อสอบออกตามเนื้อหาหลักสูตร อย่างไรก็ตาม สกอ.ต้องมาดูว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องปรับเนื้อหาข้อสอบหรือไม่ เพื่อจะได้ลดการกวดวิชาลง ด้าน นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ตนจะหารือกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ว่า เมื่อ ศธ.มีการปรับการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุภารกิจการปฏิรูปการศึกษา ทปอ.ควรจะปรับปรุงกระบวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับการเรียนการสอนที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อคลายความทุกข์ของผู้ปกครองและควรมีการนำผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ตมาใช้ในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กสอบน้อยลง เพราะหากมหาวิทยาลัยไม่มีการปรับปรุงวิธีการให้สอดคล้องกัน การปฏิรูปการศึกษาก็คงจะไม่เกิดผล. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 11 ก.ย. 58 อ่าน 1422 ครั้ง คำค้นหา : |