หนุนมหาลัยพัฒนาโปรแกรมตรวจสอบคัดลอกผลงาน

“กำจร” หนุนมหาวิทยาลัยพัฒนาโปรแกรมตรวจสอบการคัดลอกผลงาน ชี้ช่วยสร้างความเข้มแข็งในการเรียน ลดการจ้างทำหรือการลอกวิทยานิพนธ์

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานที่ประชุมคณะผู้บริหารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐและ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ทคบร.) ได้หารือตนเกี่ยวกับเรื่องการคัดลอกวิทยานิพนธ์ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรม ซึ่งได้แจ้ง ทคบร.ว่าที่ผ่านมาตนได้หารือกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้นำร่องใช้ โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ของจุฬาฯ ในการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรม เนื่องจากจุฬาฯ เปิดให้สถาบันอุดมศึกษาทั่วไปสามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวฟรี แต่ต้องแจ้งให้จุฬาฯ ทราบด้วย ขณะเดียวกัน ทคบร.ต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) วางกติกาและเป็นหน่วยงานกลางรวบรวมข้อมูลวิทยานิพนธ์ ซึ่ง สกอ.ยินดี แต่ระยะแรก สกอ.คงทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลว่ามีที่ไหนบ้างที่มีโปรแกรมตรวจสอบการลอก วิทยานิพนธ์

“เท่าที่ดูขณะนี้สถาบันอุดมศึกษาอีกหลายแห่งได้พัฒนาโปรแกรมการตรวจสอบการ คัดลอกผลงานงานวิทยานิพนธ์ บทความวิชาการของนักศึกษา การลอกเลียนงานวรรณกรรม เช่น โปรแกรมแอนติ-ก๊อปแปะ" (Anti Koppae) ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มายแคต (Mycat) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ชาติ (สวทช.) และโปรแกรม Turnitin ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เป็นต้น เพราะฉะนั้น เห็นว่าสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ น่าจะมาใช้โปรแกรมการตรวจสอบการคัดลอกหรือเลียนแบบวิทยานิพนธ์ที่มีอยู่มา ใช้เพราะส่วนใหญ่ก็ให้ใช้ฟรี ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวเพิ่มขึ้น เพราะการมีข้อมูลจำนวนมากจะทำให้ฐานข้อมูลที่จะใช้ในการตรวจสอบเข้มแข็ง” รศ.นพ.กำจรกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ตนหวังว่าโปรแกรมนี้จะช่วยบัณฑิตไทยน่าจะมีการเรียนการสอนที่เข้มงวดกว่า เดิม ลดการจ้าง การคัดลอกวิทยานิพนธ์ผิดจรรยาบรรณลงได้

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2557