"ดีเอสไอ"ตรวจอุปกรณ์ออกกำลังกาย15รร. จ.เพชรบุรี พบอัพราคาถึง10เท่า-เด็กใช้ไม่ได้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี ร.ต.อ.ชยรพ พานิชอัตรา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ (ดีเอสไอ) และนายชำนิ อุปนวล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ (ปปท.) พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบนายศานติ อรรถวรรธน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอตรวจสอบความเป็นมาในการส่งมอบอุปกรณ์ส่งเสริมการออกกำลังกายที่จัด ซื้อโดยกรมพลศึกษา เพื่อติดตั้งให้กับโรงเรียนประถมศึกษาจำนวน 15 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี แห่งละ 6 รายการ รวมเป็นเงินตามสัญญาจัดซื้อ-จัดจ้าง เลขที่ 37/2557 โดยมีบริษัท ซันสปอรต์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นคู่สัญญา


ซึ่งประกอบไปด้วย 1 ชุดบริหารดึงข้อ 2 ชุดเดินโยกแขน 3 ชุดบริหารกล้ามเนื้อแขนและอก 4 ชุดล้อหมุนสุขภาพ 5 ชุดบริหารกล้ามเนื้อขา และ 6 ชุดบริหารกล้ามเนื้อท้อง รวมเป็นเงินแห่งละ 337,300 บาท รวม 15 แห่งเป็นเงิน 5,059,500 บาท

หลังเจ้าหน้าที่ฯ ได้สอบปากคำและรับเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงได้เดินทางไปตรวจสอบอุปกรณ์ส่งเสริมการออกกำลังกายยังโรงเรียนต่างๆ ทั้ง 15 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ร.ร.บ้านดอนมะขามช้าง (ใจราษฏร์อุปถัมภ์) ร.ร.วัดโพพระใน (รุ่งรังสฤษฏ์) ร.ร.วัดกุฏิ (นันทวิเทศประชาสรรค์) ร.ร.วัดนาพรม (มนมหาวิริยาคาร) ร.ร.วัดโรงเข้ (พุฒประชาสรรค์) ร.ร.วัดเพรียง (วิเทศราฏษร์วัฒนา) ร.ร.วัดโพธิ์ทัยมณี (ศิริพรรณพิทยา) ร.ร.วัดหนองไม้เหลือง (ธรรมโชติประชาธร) ร.ร.วัดบางทะลุ (สุนทรธรรมานุสรณ์) ร.ร.บ้านดอนยี่กรอก ร.ร.วัดอินทาราม ร.ร.วัดถิ่นปุรา (เดชสมบูรณ์) ร.ร.บ้านบางกุฬา ร.ร.บ้านพี่เลี้ยง (อิ่มอุทิศ) ร.ร.วังตะโก (ช้องประชาพิทักษ์) ซึ่งในวันนี้ตรวจได้เพียง 2 ร.ร.คือ ร.ร.วัดอินทาราม กับร.ร.วัดเพรียง (วิเทศราฏษร์วัฒนา) และจะดำเนินการตรวจสอบต่อในวันถัดไป



ร.ต.อ.ชยรพ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบในโรงเรียนบางแห่ง ผู้บริหารสถานศึกษาเอง ก็ยังไม่ทราบว่า ครุภัณฑ์ที่ได้มาเป็นของโรงเรียน จึงไม่มีการลงทะเบียนครุภัณฑ์แต่อย่างใด บางแห่งก็มาติดตั้งในตอนกลางคืน โดยผู้ติดตั้งก็บอกว่าเพื่อจะได้ไม่รบกวนทางโรงเรียน และบางโรงเรียนก็บอกว่า ทราบเพียงว่า เป็นการขอใช้สถานที่เท่านั้นในการติดตั้งอุปกรณ์ส่งเสริมการออกกำลังกาย

ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้ เรามาตรวจสอบความเป็นมาของโครงการ การจัดซื้อ-จัดจ้าง ราคาที่จัดซื้อ-จัดจ้าง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ครุภัณฑ์ส่งเสริมการออกกำลังกายบางรายการ ราคาในท้องตลอดเพียงแค่ 7,000 กว่าบาท แต่ทำสัญญาซื้อกัน 40,000- 50,000 บาท

อีกทั้งบางรายการติดตั้งไปแล้วเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและแม้ระดับประถมศึกษา ก็ใช้งานไม่ได้ เพราะเป็นอุปกรณ์ของผู้ใหญ่ใช้เล่นกัน เด็กๆ นั้นเล็กเกินไปกว่าที่จะใช้งานได้ และอุปกรณ์บางชนิด เมื่อนำมาติดตั้งและส่งมอบก็ไม่มีการสาธิตหรืออธิบายวิธีการใช้งานให้กับทาง โรงเรียนจึงทำให้ใช้งานได้ไม่คุ้มค่าหรือไม่ได้ใช้งานเลย อันนี้ถือว่า ครุภัณฑ์บางรายการไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้งาน ทำให้รัฐต้องเสียหายด้านความคุ้มค่าของครุภัณฑ์ที่จัดหามา ซึ่งทั้งหมดหลังตรวจสอบเสร็จก็จะส่งรายงานไปยัง ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอ.ตช.) ที่มี ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาและสั่งการต่อไป ซึ่งเราจะตรวจสอบทุกแห่งตามสัญญาจัดซื้อ-จัดจ้าง

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558