รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปลุกพลังสร้างแรงบันดาลใจ "ครูไทย"
สุภาษิตแอฟริกันกล่าวไว้ว่า
“ต้องใช้ทั้งชุมชนในการจะฟื้นเด็กสักคนให้ดี” คือภาพสะท้อนที่ชัดเจน
และจิตใจที่แรงกล้าในการปฏิรูปการเรียนรู้ในพื้นที่
ซึ่งอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งพ่อแม่ ครู องค์กรรัฐ เอกชน
เพื่อช่วยเด็กทุกคนให้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง
เช่นกันกับการดึงสถาบัน “ครู” ให้กลับมาเป็นที่ยอมรับในสังคมไทย
ให้สมกับเป็นที่พึ่งคนสำคัญในการผลักดันลูกศิษย์ให้ถึงฝั่งฝันนั้น
ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการลุกขึ้นมาประกาศว่า
“ครูแบบใดที่เราต้องการให้ดูแลลูกหลานของเราในสังคมไทย”
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” (Princess Maha Chakri Award)
รางวัลเกียรติยศแห่งความเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกที่จัดขึ้นร่วมกันใน
ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดจากความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาเพื่อประชาชนชาวไทยตลอดมา
โดยมีคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เจ้าภาพหลัก
และสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)
เป็นหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกและคุณสมบัติ
ครูผู้สมควรได้รับรางวัลกับคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด 4
ภูมิภาคตั้งแต่วันที่ 5-17 กันยายน ที่ผ่านมา
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา กรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
บอกว่า รางวัลนี้จะเป็นการส่งสัญญาณบอกกับสังคมว่า “ครูแบบใดมีค่า
และครูแบบใดที่อยากให้คนทั้งประเทศเคารพบูชา”
จึงเป็นความท้าทายของคณะกรรมการระดับจังหวัดและคนทั้งประเทศในการคัดเลือก
เพราะถือเป็นการทำงานเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ
ซึ่งผลการคัดเลือกจะสะท้อนกลับมายังคนไทยทั้งประเทศว่า
เราให้คุณค่ากับครูประเภทใด
ฉะนั้นต้องช่วยกันเฟ้นหาครูที่เป็นต้นแบบในมิติที่เป็น
“ครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ศิษย์ สร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนครู
และสร้างคุณูปการแก่วงการศึกษาไทย”
“ครูไม่ได้เริ่มจากแรงบันดาลใจที่เป็นศูนย์
แต่เริ่มจากแรงบันดาลใจที่เคยแรงกล้า แต่อาจจะอ่อนล้าลง
แต่พร้อมเสมอที่จะมีใครสักคนมาช่วยจุดประกายด้วยตัวอย่างที่ดี ด้วยกำลังใจ
ด้วยคำแนะนำ สิ่งเหล่านี้ก็สามารถจะทำให้พลังในใจของครูลุกโชนขึ้นได้
ครูผู้มีคุณูปการสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ทำให้คนอื่นเกิดความศรัทธา
และทำให้คิดได้ว่า
ถ้าเราทุ่มเทได้สักครึ่งหนึ่งของเขาจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของ
เรา ในโรงเรียนของเรา ในลูกศิษย์ของเราได้” คุณหญิงกษมา กล่าว
ขณะที่ ศ.กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ ราชบัณฑิต
กรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
กล่าวเสริมถึงคุณลักษณะครูผู้สมควรได้รับรางวัลว่า เป้าหมายของครู คือ
ทำให้ชีวิตของศิษย์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
โดยที่มีฐานของการอบรมสั่งสอน ฝึกฝน และบ่มนิสัย
ฉะนั้นเด็กที่โชคดีที่สุดคือเด็กที่สามารถวิ่งมาหาครูได้เมื่อมีปัญหา
รางวัลนี้จึงยกย่องครูที่เริ่มต้นด้วยความเข้าใจลูกศิษย์
พยายามสร้างฐานชีวิตและสร้างทุนชีวิตให้แก่ลูกศิษย์
ครั้งนี้เรากำลังจะช่วยกันจุดพลุ
และประกาศก้องขึ้นมาจากท้องถิ่นที่ครูสอนว่าเราอยากได้ครูแบบไหน
ซึ่งจะสร้างให้เกิดการยอมรับ
และการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เชิดชูเกียรติเพียงแต่รางวัลเท่านั้น
พระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) ประธานมูลนิธิร่มฉัตร
พระนักการศึกษาได้เสนอถึงตัวชี้วัดที่สำคัญว่าต้องยึดเอาผลสัมฤทธิ์ของคนที่
เขาได้รับแรงบันดาลใจจากครูและทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตมาเป็นผลเชิง
ประจักษ์ในการพิจารณาว่า ครูท่านใดให้แรงบันดาลใจลูกศิษย์ได้เจริญก้าวหน้า
ให้ความอบอุ่น ให้เขามีพลังในการดำรงตนเป็นคนดีต่อไปด้วย
แนวคิดนี้สอดคล้องกับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Eduzones.com ดร.วิริยะ
ฤาชัยพาณิชย์ ที่เห็นตรงกันว่า รางวัลนี้ควรมอบให้ครูเล็ก ๆ ทุกคน
ที่ได้สร้างความยิ่งใหญ่ ซึ่งคนเป็นครูมีความพิเศษก็คือ
เขาสามารถที่จะสร้างใครสักคนจากไม่มีอะไรเลย จาก “Nobody” ให้เป็น
“Somebody” ครูที่ให้ความรักต่อเด็กเหล่านั้น จะทำให้เขาเป็น “Somebody”
ของใครสักคน นั่นคือครู ความยิ่งใหญ่ของครูจึงอยู่ตรงนี้
หันกลับมาฟังบรรดาศิษย์มีครูในวงการอื่น ๆ กันบ้างว่า พวกเขาและเธอวาดภาพ
“ครูในฝัน” ไว้เป็นอย่างไรกัน นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลง เล่าว่า
ครูดีที่จำได้คือ ครูดีที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู
อยากให้ความรู้ให้ได้มากที่สุด
โดยยอมลงทุนไปค้นคว้าหาคำตอบเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกศิษย์
ซึ่งไม่ใช่เฉพาะปัญหาการเรียนเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหาชีวิตด้วย
ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มั่นใจว่า
การใช้ชีวิตของครูถือเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธอในทุกวันนี้
ครูในภาพฝันของเธอจึงไม่ใช่เพียงครูที่ติดอยู่เพียงเรื่องบทเรียนตำรา
หรือการสอบเท่านั้น ในขณะที่ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการบริษัท
ทีวีบูรพา ให้แง่คิดส่งท้ายว่า
รางวัลนี้มีความพิเศษเพราะแสดงถึงความสมบูรณ์ของคนที่ได้รับรางวัล
ในฐานะที่ครูต้องทำหน้าที่บ่มเพาะ แสดงโลกแก่ลูกศิษย์
ไม่ว่าเด็กเขาจะทำอะไร หรือเขาจะนำสิ่งที่ครูสอนไปใช้ชีวิต
แต่สุดท้ายครูคนนั้นต้องสอนเด็กให้ใช้ชีวิตเป็น คิดเป็น ทำเป็นด้วย
วันนี้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับรางวัล
สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ที่คณะกรรมการคัด
เลือกระดับจังหวัดในจังหวัดของท่าน โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.PMCA.or.th หรือโทร. 0-2619-1811 และเฟซบุ๊กรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี.
กนกวรรณ กลินณศักดิ์
ที่มา เดลินิวส์ วันศุกร์ 19 กันยายน 2557 |
โพสเมื่อ :
19 ก.ย. 57
อ่าน 1947 ครั้ง คำค้นหา :
|
|