มข.อบรมนักข่าวรุ่นเยาว์พร้อมปลูกฝังจิตสาธารณะและกล้าแสดงออก




      

มข.อบรมนักข่าวรุ่นเยาว์พร้อมปลูกฝังจิตสาธารณะและกล้าแสดงออก

          การสื่อสารมวลชนเป็นวิชาชีพด้านหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะในยุคของสังคมแห่งการสื่อสารที่ทุกคนต้องการข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วเพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินชีวิตและการปรับตัวที่เหมาะสม ผ่านกลไกการสื่อสารและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งสื่อต่างๆ ที่หลากหลายจะทำหน้าที่ในการให้ความรู้ ให้ข่าวสาร ให้ความคิดเห็น ให้ความบันเทิง และให้การประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นเตือนและปลูกฝังความคิด
          ในทศวรรษที่ผ่านมา สังคมไทยมีพัฒนาการของการสื่อสารมวลชนที่รวดเร็วทั้งในด้านของเทคโนโลยีและรูปแบบของการบริหารจัดการของสื่อต่างๆ บทบาทของสื่อมวลชนเริ่มเด่นชัดขึ้นในการชี้นำทางสังคม ขณะเดียวกันก็เริ่มมีความสลับซับซ้อนที่ทำให้คนในสังคมที่อยู่ในฐานะผู้บริโภคสื่อต้องมีการพูดถึงคำว่า วิจารณญาณ มากยิ่งขึ้น
          เยาวชนไทย คือกลุ่มคนปลายน้ำที่มักได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงในสังคมเสมอๆ การให้ความรู้ความเข้าใจนับแต่แรกผ่านกระบวนการศึกษาถือว่ายังน้อย แต่กลับให้เยาวชนไทยต้องฝ่ากระแสสื่อที่ถาโถม แล้วโยนความรับผิดชอบให้กับวิจารณญาณของพวกเขา และการให้คำแนะนำจากผู้ปกครอง
          โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมสื่อสาธารณะ นักข่าวรุ่นเยาว์ ของสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นความพยายามที่จะสร้างเกราะทางความคิดอันบริสุทธิ์ของเด็กๆ ไปพร้อมกับการปลูกจิตสาธารณะที่จะถูกกระตุ้นให้พวกเขามีความกล้าที่จะออกเสียงพูดเรื่องดีเพื่อสังคม โดยมี รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายชุมชนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อประกอบรูปร่างของความคิด ด้วยวิทยากรจากรายการวิทยุที่ทำงานเพื่อสังคมและเยาวชนมากว่า 20 ปี คุณนิราภร รัตนทิพย์ รายการบ้านแสนรัก และนักเขียนรุ่นใหม่ที่ครองใจเยาวชน คุณวิททวัส แสนทนิล และการผลึกความร่วมมือจากจิตอาสาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก่อให้เกิด กิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเยาวชนจากโรงเรียนเทศบาลโนนหนองวัด โรงเรียนน้ำพองศึกษา และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นมอดินแดง รวม 20 คน ด้วยการให้ความรู้ในเรื่องการสื่อสาร การอ่านออกเสียง และการฝึกประสบการณ์ในการผลิตบทความสารคดีทางวิทยุกระจายเสียงเรื่อง รู้ทันภัยของสังคม
          ด.ญ.สุภาภรณ์ จันทรงาม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลโนนหนองวัด กล่าวว่า เป็นการอบรมที่ได้ความรู้มากโดยเฉพาะในเรื่องการใช้ภาษา ทำให้มีความกล้าในการพูดมากขึ้น จะเอาความรู้ไปบอกต่อกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน ถ้ามีโอกาสก็อยากทำผลงานผ่านวิทยุเพื่อให้เป็นประโยชน์กับสังคม
          ด.ญ.ฐิติกาญจน์ พระชัย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น มอดินแดง กล่าวว่า เป็นกิจกรรมที่สนุกและประทับใจพี่ๆ ทำให้มีความรู้มากขึ้นและยังได้เพื่อนใหม่ๆ อีกด้วย การสอดแทรกความรู้ไปพร้อมกับกิจกรรมที่สนุกสนานทำให้เยาวชนกล้าที่จะมีการรวมกลุ่มเพื่อแสดงออกตลอดระยะเวลาของการอบรม อีกทั้งความตื่นตาตื่นใจที่เด็กๆ ได้เข้ามาอยู่ในบรรยากาศจริงของสถานีวิทยุมหาวิทยาลัย ที่มีนักจัดรายการกำลังปฏิบัติงาน จะเป็นการจุดประกายฝันในวันข้างหน้า
          อาจารย์สายชล สิงห์สุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลโนนหนองวัด ซึ่งได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม เผยว่า อยากให้เด็กๆ ได้เปิดโลกสู่ประสบการณ์ใหม่ของเส้นทางด้านนี้ได้ไปคิดต่อยอดความคิด เป็นการจัดกิจกรรมที่ดีเพราะได้วิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ตรง อีกทั้งเด็กๆ ยังได้ลงมือฝึกปฏิบัติในสถานีวิทยุ แล้วยังเป็นส่วนหนึ่งในการให้การศึกษาจากแหล่งความรู้ในชุมชน ซึ่งทางโรงเรียนหวังจะให้เด็กกลุ่มนี้ลงไปฝึกเผยแพร่กิจกรรมของโรงเรียนในเครือข่ายหอกระจายข่าวในชุมชนของตนเอง
          นายอุดมชัย สุพรรณวงศ์ หัวหน้างานวิทยุสถาบันกองสื่อสารองค์กร ในฐานะหัวหน้าโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมสื่อสาธารณะ นักข่าวรุ่นเยาว์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินพันธกิจสำคัญคือ ผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยการดำเนินพันธกิจทุกประการล้วนให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากร ตลอดจนประชาชนที่เกี่ยวข้อง ผ่านกระบวนการการสื่อสารองค์กรและการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อประชากรภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โดยโครงการนี้เพื่อให้เกิดกระบวนการทำงานร่วมกันของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่จะได้มาเรียนรู้กระบวนการสื่อสารโดยที่สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เป็นวิทยุประเภทบริการสาธารณะของมหาวิทยาลัย นอกจากจะเป็นสถานีวิทยุที่บริการข่าวสารและความรู้แล้วจะยังทำหน้าที่เป็นฐานในการพัฒนาศักยภาพด้านสื่อสารมวลชนของภูมิภาคนี้ต่อไปในอนาคตด้วย
       

          ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง


โพสเมื่อ : 29 ก.ค. 57   อ่าน 1439 ครั้ง      คำค้นหา :