![]() |
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า
ตามที่สภาคณบดีครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.)
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เสนอให้ปรับระบบการผลิตครูในคณะครุศาสตร์/ ศึกษาศาสตร์ มาเป็นระบบปิด
จากเดิมที่ใครจะเปิดรับก็ได้ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องคุณภาพ
และผลิตครูได้ไม่ตรงตามความต้องการในสาขาที่ขาดแคลนนั้น
ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะต้องทบทวนระบบการผลิตครูในสถาบันฝ่ายผลิต
ว่ามีหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างไร จึงจะสามารถผลิตครูที่มีคุณภาพ
มีความเป็นครูอย่างแท้จริง และมีศิลปะในการถ่ายทอดมากน้อยแค่ไหน
เพราะครูเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ
และมีคุณลักษณะตามที่กำหนด สามารถคิด วิเคราะห์แก้ปัญหาเองได้
รวมถึงเติบโตเป็นคนที่มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมอื่นๆ
ได้ดี "ประเด็นหลักในการปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้
อยากจะให้เน้นไปที่คุณภาพของครูเป็นหลัก เพราะส่วนตัวเห็นว่า
เรื่องโครงสร้างมีผลกระทบต่อคุณภาพของนักเรียนน้อย
ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันหลายครั้งว่าอาจจะต้องปรับเป็นการผลิตครูในระบบปิด
โดยดูตามความต้องการในอนาคต 5-10 ปีด้วย ว่าต้องการครูในสาขาใด
เพื่อผลิตครูให้ตรงตามความต้องการ
และสนับสนุนให้คนที่มีใจรักในวิชาชีพครูจริงๆ มาเรียน
ซึ่งจะต้องกำหนดกรอบอัตราการบรรจุไว้ชัดเจน เมื่อจบแล้วเป็นครูได้ทันที
ไม่ใช่เรียนแล้วไม่มีงานทำ หรือตกงานเพราะผลิตกันจนล้นตลาด
ซึ่งหากปรับมาผลิตครูระบบปิด ก็จะควบคุมทั้งจำนวน และคุณภาพได้"
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าว พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวคิด เพราะยังมีข้อท้วงติงว่าจะเป็นการปิดกั้น ไม่ให้คนที่เรียนวิชาชีพอื่นมาเป็นครู ดังนั้น จึงอาจจะต้องกำหนดสัดส่วนให้ชัดเจนว่าจะผลิตในระบบปิดเท่าไหร่ และเปิดช่องให้คนในวิชาชีพอื่นมาเป็นครูได้เท่าไหร่ รวมถึง จะต้องดูในเรื่องการครองชีพให้ครูสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ให้เขาตั้งใจสอน และมีความภาคภูมิใจในความเป็นครู
ที่มา มติชน วันที่ 5 มกราคม 2558 |
โพสเมื่อ : 05 ม.ค. 58 อ่าน 1284 ครั้ง คำค้นหา : |