สช.คุมเข้มคุณภาพสถาบันสอนภาษา




      

สช.คุมเข้มคุณภาพสถาบันสอนภาษา


          ดร.บัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ปกครองให้ความสนใจส่งบุตรหลานเรียนเสริมในวิชาภาษาต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยภาษาที่นิยมเรียนสูงสุดคือ ภาษาอังกฤษ รองลงมาคือ ภาษาจีน ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงพยายามควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนภาษาในสถาบันต่าง ๆ โดยเข้าไปดูแลหลักสูตรการเรียนการสอน เช่น ภาษาจีน สช. ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากสำนักส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ หรือฮั่นปั้น มาร่วมออกแบบหลักสูตรว่าควรเรียนอย่างไรที่จะทำให้เด็กสื่อสารได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กเริ่มสนใจเรียนภาษาประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น อาทิ เวียดนาม พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย ตนจึงได้มอบให้กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ สช. จัดทำหลักสูตรภาษาเพื่อนบ้าน เพื่อให้สถาบันต่าง ๆ นำไปเป็นต้นแบบในการจัดการเรียนการสอนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และเน้นให้เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปใช้สื่อสารได้จริง
          เลขาธิการ กช. กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปรับระบบการเรียนการสอน โดยเน้นให้เด็กเรียนในห้องเรียนเพิ่มขึ้น และกวดวิชาน้อยลง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองนั้น ตนเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว แต่การจะแก้ปัญหานี้ต้องปฏิรูปที่ระบบใหญ่ ทั้งปฏิรูปครู หลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสถาบันกวดวิชาและสถาบันสอนภาษาที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สช. จำนวน  2,040 แห่ง แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 640 แห่ง และต่างจังหวัด 1,400 แห่ง ซึ่งตัวเลขไม่ได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีทั้งสถาบันที่เปิดใหม่ และสถาบันที่ขอปิด ทั้งนี้ การขอเปิดสถาบันกวดวิชา และสถาบันสอนภาษานั้น ต้องขออนุญาตจาก สช. ก่อน หากเปิดสอนโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่าเป็นสถาบันเถื่อน.

         

--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 ก.ค. 2557 (กรอบบ่าย)--


โพสเมื่อ : 09 ก.ค. 57   อ่าน 2047 ครั้ง      คำค้นหา :