ศธ.เร่งตั้งสถาบันเทคโนฯการศึกษา แนะออกพรฎ.-ดันเพิ่มงบกองทุน-ผุดทีมดูแล

          นายกิตติ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการผลักดันการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาว่า จากการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานปลัด ศธ. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มาหารือถึงเรื่องการจัดตั้ง ทำให้ทราบว่าเคยมีการยกร่างเป็นพระราชบัญญัติ และเสนอไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ผ่านการพิจารณา ซึ่งตนเห็นว่าควรออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพราะทำได้ง่ายและบริหารได้คล่องตัวกว่า ซึ่ง รมว.ศธ.มีอำนาจกำกับดูแล และสามารถของบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลได้ส่วนหนึ่ง แต่การออก พ.ร.ฎ.อาจทำให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการบริหารงานสถาบันได้ ฉะนั้นหากทำไม่ดี รมว.ศธ.ต้องถูกต่อว่า แต่ทั้งนี้ยังต้องหารือกันต่อไปเพราะประเด็นนี้ยังไม่มี
          นายกิตติกล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่ได้จัดตั้งไปแล้วนั้น เนื่องจากเงินในกองทุนมีน้อย เพราะสามารถขอเงินจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ไม่มาก เพราะติดเงื่อนไขต่างๆ ซึ่ง กสทช.แนะนำว่าสามารถขอรับเงินบริจาคจากเอกชนที่ทำงานด้านโทรศัพท์ สื่อ และอื่นๆ ได้โดยตรง แต่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ในส่วนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินเป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา โดยเพิ่มเติมคำว่าบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไป ซึ่งเชื่อว่าทางเอกชนพร้อมที่จะบริจาคให้อยู่แล้ว ฉะนั้นตนจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าวจำนวน 4 คณะ เพื่อเร่งเดินหน้าทั้งสองเรื่องให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

          --ข่าวสด ฉบับวันที่ 3 ก.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--