![]() |
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้หารือกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดอดีตผู้บริหาร สกสค. และคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตาม โครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) สังกัด สกสค. อนุมัติเงินจากกองทุน ช.พ.ค. จำนวน 2,500 ล้านบาท ไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทบิลเลี่ยนฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ยึดข้อมูลตามที่ ป.ป.ช.เสนอมา คือ ต้องโดนโทษทางวินัยร้ายแรง ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ อดีตผู้บริหาร สกสค. และกรรมการกองทุน ช.พ.ค.ที่มาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1 คน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 1 คนก็จะถูกลงโทษวินัยร้ายแรงด้วย โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ด้าน ดร.พิษณุ ตุลสุข ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือคำสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรงกับอดีตผู้บริหาร สกสค.เสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามในคำสั่งดังกล่าวแล้ว ซึ่งมี 2 แบบ คือ โทษไล่ออกกับปลดออก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับ รมว.ศึกษาธิการ ว่าจะลงนามในคำสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรงแบบใด ส่วนกรรมการในกองทุน ช.พ.ค. จำนวน 2 คนที่อยู่สังกัด สพฐ. และ สอศ.นั้น ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดจะเป็นผู้ลงนามในคำสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรงเอง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้เข้าสู่กระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายกับบริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส จำกัด (มหาชน) ที่ให้องค์การค้าฯจ่ายเงินค่าฝากขายหนังสือเรียน จำนวน 1,400 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทไม่รับข้อเสนอการไกล่เกลี่ย. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 28 ก.ย. 60 อ่าน 1656 ครั้ง คำค้นหา : |