เด็กค้านสพฐ.เพิ่มเกรดเรียนต่อม.4 ชี้จูงใจสายอาชีพ-สอศ.ต้องปรับลุกส์-แก้ตีกัน

          นายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ รองประธานเครือข่าย ยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมทบทวนออกประกาศลดจำนวนรับนักเรียนจบชั้น ม.3 ต่อ ชั้นม.4 และพิจารณาเพิ่มเกรดเฉลี่ยจากเดิม 2.00 เป็น 2.50 เพื่อหวังให้นักเรียนหันไปเลือกเรียนต่อสายอาชีพเพิ่มมากขึ้นว่า ไม่ควรเพิ่มเกรดเฉลี่ย 2.50 ทุกห้องหรือแผนกการเรียน แต่ควรออกเป็นมาตรฐานตามแผนกการเรียน เช่น สายวิทย์-คณิต ใช้เกรดเฉลี่ย 2.50-3.00 ส่วนสายศิลป์-คำนวณ และศิลป์-ภาษา หรือศิลป์อื่นๆ ใช้เกรดเฉลี่ย 2.00 เพราะเด็กแต่ละสายมีความถนัดไม่เท่ากัน หากออกเป็นมาตรฐาน 2.50 ทั้งหมด จะทำให้เด็กต้องแข่งขันกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการออกไปกวดวิชาตามสถาบันต่างๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้ระบบการศึกษาไทยเสียภาพลักษณ์มากยิ่งขึ้น
          รองประธานเครือข่ายยุวทัศน์กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายส่งเสริมให้เด็กเรียนต่อสายอาชีพเพิ่มขึ้นนั้น ถึงจะเป็นความต้องการของประเทศ แต่ สพฐ.ควรทบทวนวิธีคิดใหม่ เพราะจะทำให้เด็กที่ได้เกรดต่ำกว่า 2.50 ถูกมองว่าเรียนไม่ดี และอยู่ในสภาพถูกบังคับให้ต้องไปเรียนสายอาชีพ ทั้งๆ ที่บางคนไม่อยากเรียน จนตัดสินใจออกนอกระบบการศึกษาในที่สุด ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก็ต้องปรับภาพลักษณ์เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองด้วย
          สอศ.ควรเชิญหน่วยงานต่างๆ มาร่วมหาทางออก โดยเฉพาะปัญหาการยกพวกตีกัน เพราะปัจจุบันเด็กที่จบ ม.3 กว่าร้อยละ 70 จะเลือกเรียนต่อ ม.4 เนื่องจากผู้ปกครองเป็นห่วงความปลอดภัย แต่หากสอศ.สามารถปรับภาพลักษณ์ตรงนี้ได้ เด็กก็จะหันมาสนใจในสายนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมไปถึงหากร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท อนุมัติเพื่อทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เด็กเหล่านี้จะเป็นบุคลากรให้กับประเทศได้อย่างแน่นอน และจะสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้อีกด้วย นาย รวิศุทธ์กล่าว

          ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด