สร้างเครื่องดนตรีเพื่อเด็กบกพร่องช่วยพัฒนาสมอง-แขนและกล้ามเนื้อมัดเล็ก มศว เจ๋งรับทุนวิจัยระดับป.เอก จากวช. สร้างเครื่องดนตรีไทย ให้เด็กความบกพร่องทางสติปัญญา พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างแขนซ้ายแขนขวาและสมอง เผยดนตรีไทยที่นำมาใช้กับเด็กยังมีน้อยมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ น.ส.เทพิกา รอดสการ อาจารย์สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า งานวิจัยระดับปริญญาเอก หลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานวิจัยเรื่องการสร้างสรรค์ชุดอุปกรณ์ดนตรีแบบประสมสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากมีโอกาสได้ไปจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ที่โรงเรียนปัญญาวุฒิกร อยู่ในการสนับสนุนของมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ โรงเรียนแห่งนี้มีเด็กๆ ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เมื่อเข้าไปจัดกิจกรรมพบว่าเครื่องดนตรีไทย และเครื่องดนตรีจากต่างประเทศที่นำเข้ามาจัดกิจกรรมนั้น มีข้อจำกัดในการนำมาจัดกิจกรรมให้เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยขนาดของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นใหญ่เกินตัวเด็ก และเด็กในกลุ่มนี้มีข้อจำกัดทางด้านเรียนรู้ หากเจอลูกระนาดที่มีขนาดใหญ่ ลูกระนาดมีจำนวนตัวโน้ตเยอะ เด็กจำไม่ได้ ส่วนซอที่เราเล่นกันก็มีขนาดใหญ่เกินไปที่เด็กจะใช้แรงกดได้ มันยากเกินไปที่เด็กจะใช้แรงกด จากปัญหานี้ทำให้อยากทำเครื่องดนตรีขึ้นมาสักชุดเพื่อให้เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญามีโอกาสได้เล่นดนตรี เพราะดนตรีช่วยส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและสติปัญญาของเด็กได้ เครื่องดนตรีที่คิดขึ้นมานี้ พัฒนามาจากเครื่องดนตรีไทยที่เคยเรียนมา เครื่องดนตรีที่สร้างขึ้นให้เด็กๆ นั้นเป็นประเภทเครื่องดนตรีดีด สี ตีเป่า และเพิ่มเครื่องดนตรีเขย่า และใช้วิธีกดปุ่มต่างๆ เข้ามา ใช้แนวคิดเรื่องของเล่นเข้ามาประกอบการสร้างชุดดนตรี มีผู้เล่นประกอบวงดนตรีทั้งสิ้น 18 คน เครื่องดนตรีเน้นสีสันสดใส ดึงดูดความสนใจของเด็ก พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างแขนซ้ายแขนขวาและสมองได้ น.ส. เทพิกา กล่าว นอกจากนี้ได้แต่งเพลงใหม่ขึ้นมา 4 เพลงเพื่อให้เด็กๆ ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาได้ร่วมกันเล่น จะบรรเลงเพลงเดี่ยวหรือเล่นประกอบวงทั้ง 18 คนได้ การแต่งเพลงเพื่อให้เด็กกลุ่มนี้เล่นจะใช้หลักการแต่งเพลงไทย สำเนียงเพลงเป็นเพลงไทย ใช้โน้ตซ้ำๆ ย้ำๆ เพื่อให้เด็กจำโน้ตเพลงได้ เด็กที่อยู่ในกลุ่มการวิจัย ต้องมีไอคิวประมาณ 50-70 มีอายุประมาณ 8-10 ขวบ ซึ่งอายุของเด็กกลุ่มนี้จะเทียบเท่ากับเด็กวัย 4-5 ขวบในกลุ่มเด็กปกติ น.ส.เทพิกา กล่าวอีกว่า ประโยชน์ของงานวิจัยอยากให้ความรู้ด้านดนตรีไทยลงไปสู่การเรียนการสอนในกลุ่มเด็กพิเศษ ซึ่งงานวิจัยนี้เน้นเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เพราะดนตรีสามารถพัฒนาเด็กๆ ได้ครบส่วนไม่ว่าจะด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ตลอดถึงประโยชน์ด้านดนตรีไทยที่นำมาใช้กับเด็กยังมีน้อยมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ยังมีให้เห็นน้อยมาก ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก |
โพสเมื่อ : 28 ก.พ. 57 อ่าน 1440 ครั้ง คำค้นหา : |