ใหญ่คับฟ้าจริงๆ

ใหญ่คับฟ้าจริงๆ

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

ดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากยิ่งที่ รมว.ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเห็นชอบกับแนวทางของ นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษาด้านกฎหมายของศธ. ที่นำเสนอ พ.ร.บ.ซูเปอร์บอร์ดการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติ เพื่อเป็นตัวตั้งต้นเดินหน้าปฏิรูปการศึกษา ในบางประเด็น

แม้จะยกอ้างถึงในรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ซูเปอร์บอร์ดฯ ดังกล่าวนี้ ผ่านความเห็นชอบจากตัวแทนสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ส่วนใหญ่จะตรงกับ พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายฯ ของสปช.มากที่สุดแล้วก็ตาม

หน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ คือกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ต่างๆ ด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานและองค์กรด้านการศึกษา ในกิจการเกี่ยวกับการศึกษาและพัฒนามนุษย์อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ นี่ไม่ใช่ประเด็น

แต่ประเด็นที่น่าจะเป็นปัญหา น่าจะอยู่ที่อำนาจของคณะกรรมการคาบเกี่ยวกับหน่วยงานภาครัฐหลายองค์กร ตัวองค์กรของคณะกรรมการจะต้องเป็นส่วนราชการ หนึ่งล่ะที่เป็นการขว้างงูไม่พ้นคอ

ประเด็นที่สอง โครงสร้างที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รมว.ศธ. รองประธาน ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 12 คน จะได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11 หน่วยงาน

ตามด้วยการมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการเฉพาะเรื่องทำงานเต็มเวลา ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา

ดูเหมือนว่า นายวิริยะ มั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่า การทำงาน ซูเปอร์บอร์ดจะไม่มีปัญหาการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง นโยบายต่างๆ หรือยุทธศาสตร์เมื่อคะแนนเสียงออกมาเป็นมติคณะกรรมการแล้ว ต้องมีการส่งไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติออกเป็นมติ ครม.ด้วย นี่แหละจะเป็นปัญหาหลัก

หากท่านประธาน คือ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตามมติ ก็อาจจะมีปัญหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่

แสดงว่า อำนาจของคณะกรรมการในซูเปอร์บอร์ดการศึกษาฯ นี้มีอำนาจถึงขนาดเอาเรื่องผู้นำรัฐบาลที่บริหารประเทศได้ เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ อย่านั่งเงียบก็แล้วกัน (ฮา) 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 21 สิงหาคม 2558