คลอดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ตั้ง 200 ทีมอบรมเป็นพี่เลี้ยง ร.ร.



“ดาว์พงษ์” ยันไม่กระทบวิชาการ นร.

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนได้ชี้แจงให้รับทราบถึงนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ซึ่งไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่เป็นแนวทางการบริหารจัดการเวลาเรียน แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา เรียนจริงในห้องเรียนจากเดิม 30-35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เหลือ 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมัธยมศึกษา จากเดิม 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เหลือ 27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนกลุ่มวิชาหลัก

สำหรับรูปแบบกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ 1.สร้างเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ 2.สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม และ 3.สร้างเสริมทักษะการทำงาน การดำรงชีพ และทักษะชีวิต แต่ละหมวดแบ่งเป็น 13 กิจกรรม เช่น กิจกรรมพัฒนาการสื่อสาร การคิด การใช้เทคโนโลยี การปลูกฝังรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การมีจิตสาธารณะ การตอบสนองความถนัดของผู้เรียนแต่ละบุคคล ฝึกทักษะอาชีพ และเพิ่มทักษะการใช้ชีวิตในสังคม เป็นต้น ขณะนี้มีโรงเรียนที่พร้อมเข้าร่วม 2,948 โรง จากนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จัดเวิร์กช็อปการดำเนินงาน พร้อมตั้งทีมฝึกอบรมเพื่อเป็นพี่เลี้ยงโรงเรียนกว่า 200 ทีมรวมถึงอบรมครูให้ทราบวิธีการจัดการเรียนรู้ด้วย นอกจากนี้จะมีการประเมินผล หากนโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จก็ทยอยดำเนินการต่อในโรงเรียนอื่นๆในปีการศึกษาหน้าทันที

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวด้วยว่า ระบบการศึกษาที่สมบูรณ์แบบจะต้องมีทักษะ 3 ด้าน คือ ทักษะสมองในการคิดวิเคราะห์ ทักษะหัวใจในการสร้างทัศนคติที่ดี และทักษะการใช้มือในการลงมือปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้จะไม่ส่งผลกระทบทางวิชาการ โดยเฉพาะการทดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) จึงขอให้ผู้ปกครองเชื่อมั่นได้ว่าเด็กทุกคนจะมีทักษะการคิดวิเคราะห์ และมีคุณภาพการเรียนที่ดีขึ้น.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 23 ก.ย. 58   อ่าน 1471 ครั้ง      คำค้นหา :