พ่อแม่รู้ไว้! ศธ.จ่อขยายศึกษาภาคบังคับ สตาร์ทที่ "อนุบาล"
ศธ.จ่อ
ขยายการศึกษาภาคบังคับถึงระดับอนุบาล จาก 9 ปีเป็น 11
มีพร้อมบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมพร้อมการศึกษาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งถ้ามีผลบังคับใช้หากพ่อแม่ไม่ส่งเด็กเข้าเรียนถือว่ามีความผิด ขณะที่
สพฐ.ระบุต้องแก้ พ.ร.บ.การศึกษา และพ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ รองรับ
โดยข้อกำหนดไม่รวมศูนย์เด็กเล็ก
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดเวทีเสวนา
"ปฎิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน"
เพื่อระดมความความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอจากผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการ
ศึกษา อาทิ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพทางการศึกษา (สมศ.)
ผู้แทนจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสถานศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เข้าร่วมกว่า 460 คน โดยมีพล.ร.อ.ณรงค์
พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน
โดย พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวระหว่างเปิดเสวนาตอนหนึ่ง ว่า
ตนเชื่อว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา
เห็นได้จากผลการประเมินจากองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ อาทิ
ในกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยอยู่ในอันดับที่ 8
หรือในระดับโลกไทยอยู่ในอันดับค่อนข้างต่ำ
ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าแม้ทุกรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการศึกษาโดยทุ่มงบ
ประมาณให้เป็นจำนวนมากแต่เพราะเหตุใดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กจึงไม่
เป็นไปตามที่คาดหวัง ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญกับการศึกษาขั้นพื้นฐานมาก
แต่มักจะพูดถึงแต่ระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษา
แต่ให้ความสำคัญกับระดับปฐมวัย หรือ อนุบาล
น้อยทั้งที่เป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม
โดยขณะนี้ทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
ได้มีการเสนอให้ขยายการศึกษาภาคบังคับจากเดิม 9
ปีตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-มัธยมศึกษาปีที่ 3
ขยายลงมาถึงระดับอนุบาลอีก 2 ปีรวมเป็น 11
ปีและให้บรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในส่วนของ
ศธ.ก็ต้องมาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้เท่าที่ดูทุกฝ่ายมีความเห็นสอดคล้องกัน
และส่วนตัวก็เห็นด้วยเพราะหากเราต้องการสอนให้เด็กคิดดี มีจิตสำนึกที่ดี
ก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงวัยนี้เพราะสามารถจดจำและเรียนรู้ได้เร็ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงแนวความคิดต้องรอข้อสรุปจากทั้ง สปช.
และสนช.อีกครั้ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า
ในส่วนการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา ของ ศธ. เมื่อเร็ว ๆ
นี้นั้นได้มีการหารือถึงข้อเสนอของสมาชิก
สปช.บางท่านที่เสนอให้ลดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่ให้มากเกินไป
เพื่อให้นักเรียนและครูมีความใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
ซึ่งได้มอบให้
สพฐ.ไปดำเนินการศึกษาส่วนจำนวนนักเรียนต่อห้องควรจะเป็นจำนวนเท่าไหร่
ยังไม่สามารถตอบได้
ขอให้ผู้เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดรวมถึงศึกษาจากงานวิจัยต่าง ๆ
และคงไม่ได้เริ่มทันทีในปีการศึกษา 2558 นี้ ขณะเดียวกัน
ยังหารือกรณีที่จะมีการปรับโครงสร้างศธ.โดยแยกสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
(สกศ.) ออกไป
และให้ทำหน้าที่ดูภาพรวมการจัดการศึกษาของประเทศในรูปแบบคณะกรรมการ
หรือซุปเปอร์บอร์ด ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า
ควรจะขยายการดูแลไปถึงเรื่องทรัพยากรบุคคลด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปเพราะยังต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน
ภาพรวมต่อไป
ด้าน นายอำนาจ วิชยานุวัติ
ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. กล่าวว่า
แนวทางที่จะให้ขยายการศึกษาภาคบังคับลงมาถึงระดับปฐมวัย 2
ปีนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมทางการศึกษาตั้งแต่เด็ก
โดยตามขั้นตอนแล้วเมื่อมีการบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ศธ.จะต้องดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
และพ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ 2547 และประกาศใช้ ทั้งนี้
ปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้บังคับว่าเด็กทุกคนต้องเรียนระดับอนุบาล
แต่สำหรับผู้ที่เข้าเรียนรัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณอุดหนุนรายหัวให้เหมือน
ระดับการศึกษาอื่นๆ โดยระดับอนุบาล อยู่ที่ 1,700 บาทต่อคนต่อปี
เพราะฉะนั้น
ในอนาคตเมื่อมีการกำหนดให้ระดับอนุบาลเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาภาคบังคับ
หากผู้ปกครองไม่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนก็ถือว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม
เกณฑ์ของระดับอนุบาลจะต้องอยู่ย่างเข้า 4 ขวบ ดังนั้น เพราะฉะนั้น
การขยายครั้งนี้จะไม่รวมถึงศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งมีเด็กอายุตั้งแต่ 0-3
ขวบที่ปัจจุบันอยู่ในการดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานต่างๆ
ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2558 |
โพสเมื่อ :
29 ม.ค. 58
อ่าน 1288 ครั้ง คำค้นหา :
|
|