คอลัมน์: รายงาน: กศน.อ่างทองบูรณาการ’บ้านหนังสืออัจฉริยะ’แก้สังคมออนไลน์-รับ’เออีซ




      

คอลัมน์: รายงาน: กศน.อ่างทองบูรณาการ'บ้านหนังสืออัจฉริยะ'แก้สังคมออนไลน์-รับ'เออีซี'

 

          เสถียร ธีฆัมพร
          ประชาชนชาวอ่างทองคุ้นเคยกับ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้านมาก่อนรุ่นต่อรุ่นยาวพอสมควร ปัจจุบันได้พัฒนารูปแบบและวิธีการ โดยศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นหลักในการขับเคลื่อนเป็น บ้านหนังสืออัจฉริยะ
          พรทิพย์ภา คาวีวงศ์ ผอ.กศน.จังหวัดอ่างทอง บอกว่า ความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่มีชีวิตไม่รู้จักตาย อ่านแล้ว กลับมาค้นคว้าได้อีก ไม่เหมือนสื่ออื่น อาทิ โทรทัศน์ ดูแล้วทวนความรู้ที่ผ่านไปไม่ได้ บ้านอัจฉริยะ จึงเป็นสิ่งที่สนองความต้องการและชักนำให้ประชาชนรักการอ่านอย่างยั่งยืน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบใช้ในชีวิตประจำวัน มีคุภาพชีวิตที่ดี ได้จัดตั้งขึ้นในชุมชนบ้าน วัด ร้านอาหาร ร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ ในหมู่บ้าน และทุกสถานที่ที่มีประชาชนนิยมไปสถานที่นั้นมาก ขณะนี้ได้จัดตั้ง บ้านหนังสืออัจฉริยะ แล้ว 266 แห่ง และกำลังขยายขอบเขตออกไปอีก
          ได้ขับเคลื่อนให้ประชาชนรักการอ่าน ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมการอ่านให้เป็นรูปธรรม โดยมีจิตอาสาและผู้ใหญ่ใจดีและชุมชนสนับสนุน สถานที่ เพิ่มปริมาณหนังสือ วัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการอ่านและจัดทำกิจกรรมบางอย่างนอกจากส่งเสริมให้ทุกเพศวัยรักการอ่าน และจัดกิจกรรมที่ได้จากการอ่านแล้ว โดยเฉพาะเพื่อขานรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Association of South East Asian Nations) หรือเออีซี ในปี 2558 จึงได้จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการอาเซียน ก่อนการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ควบคู่กับกระบวนการรักการอ่านอย่างยั่งยืนของโครงการ บ้านหนังสืออัจฉริยะ
          ผอ.กศน.จังหวัดอ่างทอง ระบุว่า จากการติดตามโครงการนี้อย่างใกล้ชิด ปรากฏว่ามีประชาชนให้ความสนใจและมาใช้บริการการอ่านมากขึ้น เพราะ บ้านหนังสืออัจฉริยะ ตั้งอยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมาย ไม่มีกรอบระเบียบยุ่งยาก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่มีเวลาก็สามารถเข้าถึงได้ทุกคนอย่างเท่าเทียม ประกอบมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเสริมแนะนำในการอ่าน และจำเนื้อหาที่สำคัญๆ ทั้งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ และอื่นๆ ของแต่ละผู้อ่านเพื่อนำไปใช้ประโยชน์อย่างจริงจังต่อไปได้
          ด้าน สุรีย์ มีลักษณะ ผอ.กศน.อำเภอเมืองอ่างทอง บอกว่า ยังมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ต้องกระตุ้นให้รักการอ่าน จากหลากหลายเหตุ โดยสรุปไม่มีเวลา ดังนั้น บ้านหนังสืออัจฉริยะ จึงเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้กลุ่มบุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสและเข้าถึง เพราะตั้งอยู่หลากหลาย ทั้ง วัด บ้าน มุมหนึ่งของโรงเรียน อบต. ชุมชน ร้านอาหาร สร้างโอกาสให้บุคคลกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ซึ่งพัฒนาเป็น บ้านหนังสืออัจฉริยะ ในขณะนี้ เพราะ บ้านอัจฉริยะ ใกล้ชิดประชาชนทุกเภททุกภัย ไม่มีกรอบเวลา เป็นโครงการแบบบ้านบ้านเข้าถึงได้ง่ายอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังมีจิตอาสาและผู้ใหญ่ใจดี รวมทั้งชุมชน สนับสนุนในรูปแบบต่างๆ
          สุรีย์ บอกด้วยว่า นอกจากนี้ในการออกท้องที่เชิงรุก เพื่อบริการกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ห่างไกล โดยจัดโมบายเคลื่อนที่เพื่อส่งเสริมการอ่านให้แก่กลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อปท. และร่วมกับโครงการ อำเภอยิ้ม ของผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังสถานที่ต่างๆ มีการพัฒนาห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดที่เอื้อต่อการเรียนรู้หลากหลายต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อเป็นกลไกการอ่าน จุดประกายให้ ประชาชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษาตื่นตัวกับการอ่าน และเข้าถึงการอ่านได้ง่าย ซึ่งผลพลอยได้ทำให้วัยรุ่นและเยาวชนห่างไกลยาเสพติด
          วิลาสินี ถีระแก้ว อาจารย์ กศน.ผู้รับผิดชอบและขับเคลื่อนโครงการ บ้านหนังสืออัจฉริยะ เสริมว่า นอกจากจุดประกายให้ทุกกลุ่มอายุและทุกอาชีพมีความสนใจเข้าถึงและรักการอ่านแล้ว บ้านหนังสืออัจฉริยะยังได้จัดกิจกรรมบูรณาการในรูปแบบ อ่าน คิด ทำ โดยเมื่ออ่านแล้วมีความรู้ เกิดความคิดสร้างสรรค์ จิตอาสาช่วยหนุนการสร้างงานที่ได้จากการอ่าน ตามที่คิดหรือชิ้นงานที่ได้จากแรงจูงใจจากการอ่าน และหรือตาม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามความสมัครใจของผู้อ่านโดยการฝึกสอนและลงมือปฏิบัติสร้างงานเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นการปลี่ยนบรรยากาศ สร้างความเพลิดเพลินไม่ให้เบื่อจากการอ่านทั้งวันนี้และวันหน้า สร้างทัศนคติที่ดี ทำให้อยากมาอ่านในวันต่อๆ ไปอย่างไม่เบื่อหน่าย
          ทั้งนี้ ผู้อ่านจากหลากหลายทั้งเพศ วัย และอาชีพ จะได้อ่านตามอัธยาศัย ทั้งวิชาการ ข่าวสาร เศรษฐกิจ สังคม ความรู้ และความสนุกเพลิดเพลิน จากสิ่งพิมพ์นานาชนิด มีทั้งที่จัดซื้อแลกเปลี่ยน ผู้ใหญ่ใจดีบริจาค ทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ หนังสือเล่ม และการ์ตูน สิ่งพิมพ์รวมทั้งตำรับตำรานานาประเภท เท่าที่ผู้ใหญ่ใจดีหยิบยื่นให้
          วิลาสินี บอกด้วยว่า ที่สำคัญปัจจุบันสังคมในชนบทได้เปลี่ยนเป็นสังคมรู้กว้างไกลหลากหลายจากโลกออนไลน์ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ใช้เฟซบุ๊ก เล่นไลน์ ไม่แพ้ประเทศอื่น หรืออาจเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ได้แผ่กระจายเข้าทุกหมู่เหล่าไม่ว่าเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนได้รวดเร็ว โทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นสิ่งชักนำให้เบี่ยงเบนจากสังคมเอื้ออาทร เป็นต่างคนต่างก้มหน้าเล่นเฟซ เล่นไลน์ และกำลังเป็นที่นิยมทุกเพศทุกวัยต่างมีโทรศัพท์มือถือติดตัวทุกคน เมื่อพักสายตาหรือจบการอ่านเรื่องที่สนใจ หรือหยุดหรือพักการอ่าน
          จึงต้องสร้างแรงจูงใจชักจูง สอนวิธีทำกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้อ่านได้จากการอ่าน หรือกิจกรรมแบบสร้างสรรค์ดังกล่าวข้างต้นแบบง่ายๆ ใช้เวลาน้อย ทำแล้วมอบให้ติดมือกลับบ้าน ก่อนที่เจ้าโทรศัพท์มือถือจะฉวยโอกาสแทรกแซง ช่วงชิงเวลาจากการอ่านหันไปเล่นเฟซเล่นไลน์ จะทำให้การอ่านจบสำหรับวันนั้นๆ และอาจถึงวันข้างหน้าด้วย

 

          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน


โพสเมื่อ : 18 พ.ย. 56   อ่าน 1489 ครั้ง      คำค้นหา :