เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]
ครม.มีมติแต่งตั้ง รศ.ประภาภัทร นิยม เป็นที่ปรึกษา รมว.ศธ. และ
พล.ร.ท.เรืองทิพย์ เทียนทอง เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ขณะที่
พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. ได้พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล
เป็นที่ปรึกษา และ พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ส่วน ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศธ. ยังไร้ที่ปรึกษา แต่ก็ได้ ดร.อมรวิชช์
นาครทรรพ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
หรือว่ายังมองไม่เห็นผู้ใดจะหาญกล้าอาสาเข้ามาทำหน้าที่กับท่านทั้งสองก็อาจ
เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองกันถึงความรู้ความสามารถของ รศ.ประภาภัทร นิยม
ที่ปรึกษา รมว.ศธ. และ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศธ.
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร
แล้วนับว่ามีความเหมาะสมลงตัวด้วยประการทั้งปวงในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์
นักวิชาการ นักการศึกษา ไม่ว่าจะมองในมุมใด
จุดเด่นของ รศ.ประภาภัทร นิยม จึงเป็นมากกว่าผู้ก่อตั้งและ
ผอ.โรงเรียนรุ่งอรุณ และสถาบันอาศรมศิลป์
เป็นครูที่ประสบความสำเร็จยิ่งในการสอน
ก่อนมาเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางเลือกของประเทศ
ที่มุ่งมั่นให้เด็กเห็นคุณค่าของชีวิต และจริยธรรมมากกว่าหลักสูตรการเรียน
มีเครือข่ายทำงานที่หลากหลายกว้างขวาง
เคยเป็นผู้นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นและแนวทางปฏิบัติการศึกษา
ถึงโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษา ระยะสั้นและระยะยาว
ซึ่งเป็นผลจากการประชุมคณะทำงานปฏิรูปการศึกษา และน่าจะเข้าตา คสช.
เมื่อจับคู่เข้ากับ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ แห่งคณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีมประสานงานชุดโครงการวิจัยการศึกษากับชุมชน
และผู้จัดการเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาด้านเด็ก ครอบครัว
และชุมชนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทุกอย่างคงราบรื่น
ประกันด้วยผลงานในฐานะที่เป็น ผอ.สถาบันรามจิตติ เพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้
ที่ปรึกษาวิชาการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน
(สสค.) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในขุนพลผู้ก่อคลื่นลูกใหม่แห่งการเรียนรู้
เจ้าของความคิดห้องเรียนอนาคตแห่งศตวรรษที่ 21 การสร้างห้องเรียนโฉมใหม่
ต้องไร้กำแพง ต้องมีการเชื่อมกับครอบครัว ชุมชน
และชีวิตความเป็นจริงในสังคม
ห้องเรียนต้องเปิดกว้างให้เด็กออกไปเรียนรู้และหาคำตอบด้วยตัวเอง
นับจากนี้ไปการศึกษาไทยจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรได้ติดตามแบบห้ามกะพริบตา
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557